หนังสือการเงินเล่มแรกๆของการก้าวสู่ความรวยและความมั่นคั่งShow me the money

หนังสือการเงินเล่มแรกๆของการก้าวสู่ความรวยและความมั่นคั่ง

    สวัสดีครับ วันนี้มาเจอกับบล็อกการออมและเงินฝากดอกเบี้ยสูง หลังที่ผู้เขียนไม่ได้มาอัพเดตบล็อกมาหลายวันก็เพราะว่าหลังปีใหม่มาก็มีงานดนตรีเข้ามาทุกวันแถม ต้องเคลียร์งานที่ค้างมาจากปีที่แล้ว ซึ่งผู้เขียนมีธุรกิจเล็กๆส่วนตัวด้วยก็เลยต้องไปแก้ไขและซ่อมบำรุงเพื่อก้าวสู่ปีใหม่ ก็เกือบ 2 สัปดาห์เลยเหมือนกันกว่าจะเสร็จเรียบร้อย วันนี้ก็เลยมานั่งเขียนบทความการเงินและการลงทุน การออมให้เพื่อนๆมาอ่านเก็บความรู้กันได้

    อย่างอื่นที่ได้เกริ่นหัวเรื่องว่า หนังสือการเงินเล่มแรกๆของการก้าวสู่ความรวยและความมั่นคั่ง เนื่องหลังจากการกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น ผู้เขียนได้มีโอกาสไปนั่งเล่นในห้องนอนสมัยตอนเรียนม.ปลาย ก็ได้ไปพบเจอหนังสือการเงินส่วนบุคคลที่ผู้เขียนซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2545 ถ้านับมาถึงตอนนี้แล้วก็นับ 12 ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อเลย ว่าหนังสือเล่มนี้ก็ยังมีเนื้อหาสาระ ที่สามารถนำมาใช้ในเศรษฐกิจ ปัจจุบันได้ นั้นก็คือ หนังสือ  Show me the money  บอกสิจะมีเงินได้ไง  ซึ่งผู้แต่งคือ  สุวภา เจริญยิ่ง   สำนักพิมพ์ เนชั่นบุ๊คส์  ซึ่งเนื้อหาดีมากๆ เข้าใจง่าย มีประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินส่วนบุคคลและ บุคคลที่ต้องการลงทุนในสภาวะตลาดผันผวนอย่างนี้ 

    สำหรับผู้เขียน ยังเสียดายอยู่เลยที่ไม่ได้นำความรู้ด้านการเงินดีๆมาใช้ เพราะทิ้งไว้อยู่ในชั้นหนังสือที่บ้านต่างจังหวัดมาเนิ่นนานเหลือเกิน เพราะผู้เขียนพี่สุวภา  เจริญยิ่งในปัจจุบันจะเห็นท่านอออกรายการทางด้านการเงินอยู่บ่อยๆ เรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการออม การเงินและการลงทุนตัวจริงเลย ถ้าเทียบกับราคา 180 บาท ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะเป็นการลดเวลาในการเรียนรู้ในด้านการลงทุน ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง ซึ่งการเรียนรู้เรื่องการเงินและการลงทุนนั้น ต้องยอมรับว่าเราต้องใช่เงินจริงๆในการลงทุน หรือแม้แต่การออม ก็ต้องใช้เงินเสมอ

   ส่วนตัวผู้เขียนนั้น การลงด้านความรู้ ในการซื้อหนังสือด้านการเงินและการลงทุนนั้น ผมจะให้ความสำคัญมาก ยิ่งพอมาลงทุนของจริงในตลาดหลักทรัพย์จริง ก็ต้องยอมรับเลย ตัวเราเองยังไม่รู้เรื่องการลงทุนอีกมากมายเลย เรียกว่าชั่วโมงบินยังต่ำมาก เคยมีคนกว่าว่า ถ้าเรายังไม่ลงทุนครบ 10 ปี ก็ยังไม่ถือว่าเราเป็นเซียนตลาดหุ้นตัวจริง เพราะอะไร ก็เป็นเพราะว่า ในตลาดหุ้นนั้นบางคนก็เข้ามาถูกจังหวะ มาช่วงตลาดอยู่ขาขึ้นพอดี หรือเรียกว่าตลาดกระทิง Bull Market  ผู้เขียนก็เป็นคนกลุ่มนั้นเช่นกัน ซึ่งเข้ามาลงทุนในช่วงปี 2555 แต่มาพอปี 2556 ก็เป็นตามธรรมชาติที่มีขึ้นก็ต้องมีลง จากพอร์ตที่เป็นบวกมากก็ ณ ปัจจุบันก็ต้องมีลบบ้างเป็นธรรมดา นี้ยังไม่รวม ปี 2557 ที่มีปัญหาเรื่องการเมืองที่ยังไม่รู้ว่าจะไปจบที่ใดนั้น

แต่หนังสือเล่มนี้จะมีข้อคิดเทคนิคในการลงทุนแบบไม่ต้องมีความเสี่ยง หรือเสี่ยงน้อยแต่ยังคงรักษาผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจเลย อย่าลืมลองไปหาตามร้านหนังสือดังๆ อาจจะยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง หรือ เวลามีงานสัปดาห์หนังสือก็ลองไปที่บูทของสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ก็ได้ วันนี้ก็คงได้รู้จักหนังสือเรื่องการเงินส่วนบุคคลแล้ว วันหน้าก็จะมาแนะนำหนังสือดีๆอีกเพื่อให้เพื่อนๆ ก้าวสู่อิสระการเงินได้อย่างเร็วขึ้น โชคดีทุกคน